1. ช่องทางการถือครองที่ดินและบ้านที่ถูกกฎหมายสำหรับชาวต่างชาติ
แม้กฎหมายที่ดินของไทยจะจำกัดไม่ให้ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยตรง แต่ก็มี 2 ช่องทางหลักที่ได้รับความนิยมและปลอดภัยที่สุด:
1.1 การถือครองอาคารชุด (Condominium Freehold)
สิทธิที่ชัดเจน: เป็นสิทธิ์ที่ชัดเจนที่สุด ชาวต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ (โฉนด) ในห้องชุดได้โดยตรง (Freehold)
เงื่อนไขสำคัญที่ต้องตรวจสอบ:
โควต้าต่างชาติ (Foreign Quota): สัดส่วนการถือครองของชาวต่างชาติต้องไม่เกิน 49% ของพื้นที่ขายทั้งหมดของอาคารชุดนั้นๆ
ที่มาของเงินทุน: เงินทุนที่ใช้ในการซื้อต้องถูกโอนมาจากต่างประเทศในรูปของเงินตราต่างประเทศ และต้องมีเอกสาร ธ.ต.3 (FET Form) หรือหลักฐานการโอนเงินที่ชัดเจน
1.2 การเช่าระยะยาว (Leasehold) สำหรับบ้านและวิลล่า
ทางเลือกหลักสำหรับวิลล่า: เนื่องจากวิลล่าส่วนใหญ่ตั้งอยู่บนที่ดิน การทำสัญญาเช่าระยะยาวจึงเป็นทางเลือกมาตรฐานที่ปลอดภัยที่สุด
ความมั่นคงทางกฎหมาย: สัญญาเช่ามีระยะเวลาสูงสุด 30 ปี และสามารถระบุสิทธิ์ในการต่อสัญญาเพิ่มเติมได้อีก 2 ครั้ง (รวมสูงสุด 90 ปี) โดยสัญญาเช่าที่สมบูรณ์จะต้อง จดทะเบียนที่สำนักงานที่ดิน (Land Department) เพื่อให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย
สิ่งที่ต้องเน้น: การตรวจสอบเงื่อนไขการเช่าและการต่อสัญญา (โดยเฉพาะสิทธิ์ในการต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ) และการระบุสิทธิ์ในการโอนสิทธิ์การเช่าต่อให้กับบุคคลอื่น
2. ความเสี่ยงที่สำคัญและการตรวจสอบเพื่อป้องกัน
การซื้ออสังหาฯ ในต่างประเทศมีความซับซ้อน ผู้ซื้อต้องใส่ใจรายละเอียดด้านกฎหมายเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง
ความเสี่ยงที่อาจเจอ | วิธีตรวจสอบและป้องกันที่ PropandPlot แนะนำ |
โครงสร้าง Nominee (นอมินี) การใช้ชื่อบุคคลไทยหรือบริษัทที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายถือครองแทน | ไม่ควรทำอย่างยิ่ง การใช้ชื่อผู้อื่นถือครองแทนถือเป็นความเสี่ยงสูงสุดและผิดกฎหมาย ควรเลือกช่องทาง Leasehold หรือ Condominium Freehold เท่านั้น |
เอกสารสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ซื้อขายโดยใช้เอกสารสิทธิ์ที่ไม่ใช่โฉนด (เช่น นส.3ก) หรือโฉนดติดภาระผูกพัน | การตรวจสอบสถานะโฉนด (Due Diligence): ผู้เชี่ยวชาญต้องตรวจสอบ โฉนด (Chanote) ที่สำนักงานที่ดิน เพื่อยืนยันว่าไม่มีภาระจำนองหรือข้อพิพาทใดๆ |
สัญญาไม่รัดกุม สัญญาที่ไม่ระบุเงื่อนไขการคืนเงิน หรือระบุรายละเอียดการก่อสร้าง/ตกแต่งไม่ชัดเจน | ร่างสัญญาด้วยทนายความ: ทุกสัญญาต้องได้รับการร่างและตรวจสอบโดย ทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ ด้านอสังหาฯ สำหรับชาวต่างชาติโดยเฉพาะ |
ภาษีและค่าธรรมเนียมที่ไม่คาดคิด การไม่รู้เรื่องภาษีธุรกิจเฉพาะ, ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง, และค่าธรรมเนียมการโอน | การวางแผนภาษีล่วงหน้า: ผู้เชี่ยวชาญจะแจ้งให้ทราบถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดอย่างโปร่งใสก่อนทำธุรกรรม |
PropandPlot ผู้เชี่ยวชาญของคุณ เพื่อการลงทุนที่ปลอดภัยในภูเก็ต
การตัดสินใจลงทุนในภูเก็ตถือเป็นเรื่องใหญ่ PropandPlot มุ่งมั่นที่จะเป็นมากกว่านายหน้า โดยทำหน้าที่เป็น พาร์ทเนอร์ที่เชื่อถือได้ ในทุกขั้นตอน:
Legal Vetting (การคัดกรองกฎหมาย): เราทำงานร่วมกับสำนักงานทนายความชั้นนำ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างการซื้อของคุณถูกต้องตามกฎหมายไทย 100%
Transparency (ความโปร่งใส): เราให้ข้อมูลด้านราคา, ค่าธรรมเนียม, และความเสี่ยงทั้งหมดอย่างครบถ้วน ไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง
End-to-End Service: ตั้งแต่การเลือกทรัพย์สิน, การทำ Due Diligence, การเจรจาต่อรอง, ไปจนถึงการจดทะเบียนโอนสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดิน เราอยู่เคียงข้างคุณในทุกขั้นตอน
สรุป ลงทุนในภูเก็ตได้อย่างมั่นใจ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้องและการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การซื้ออสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตในฐานะชาวต่างชาติเป็นไปได้และปลอดภัยอย่างยิ่ง หากคุณทำความเข้าใจในกฎหมาย เลือกช่องทางที่เหมาะสม และมีที่ปรึกษาที่เชี่ยวชาญและไว้วางใจได้คอยดูแล
อย่าให้ความไม่แน่ใจมาขัดขวางความฝันและโอกาสในการลงทุนที่ยอดเยี่ยมของคุณ! ติดต่อทีมงาน PropandPlot วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาส่วนตัวและเริ่มต้นการลงทุนที่มั่นคงในสวรรค์เขตร้อนแห่งนี้!









